DTV Visa Thailand คือ วีซ่าท่องเที่ยวชนิดใหม่ที่มีอายุถึง 5 ปี และเป็นวีซ่าท่องเที่ยวที่มีขั้นตอนการสมัครและค่าธรรมเนียมคุ้มค่าที่สุดเมื่อเทียบกับวีซ่าระยะยาวชนิดอื่นๆ
DTV Visa เริ่มมีการใช้ในเดือนกรกฎาคม 2024 ซึ่ง DTV Visa เป็น 1 ในนโยบายของรัฐบาลไทย ที่จะดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศผ่านการผ่อนปรนกฎเกณฑ์เรื่องวีซ่า ทำให้ชาวต่างชาติที่มีศักยภาพทางการเงินสูง สามารถที่จะมาอยู่ในเมืองไทยได้ง่ายขึ้น
สามารถดูรายละเอียดข้อมูลและการต่ออายุวีซ่า จากคลิปสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศได้ที่วีดีโอด้านล่างนี้
1.สมัครผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศด้วยตนเอง ซึ่งในปัจจุบันสถานทูตในต่างประเทศทุกแห่งปิดรับการสมัครแบบ Walk-In แล้ว ผู้สมัครทุกท่านจึงต้องสมัครผ่านการลงทะเบียนใน Thaievisa.go.th เท่านั้น
*หน้าเว็บไซต์ที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่า DTV
2. สมัครผ่านวีซ่าเอเย่นต์ ที่รับทำเรื่อง DTV โดยเฉพาะ ซึ่งเอเย่นต์แต่ละแห่งจะมีการคิดค่าดำเนินการเอกสาร 8,000 – 30,000 บาท (ไม่การันตีผลลัพธ์ ว่าได้หรือไม่) ซึ่งทางเอเย่นต์ก็จะดำเนินการสมัครผ่านเวบไซต์ Thaievisa.go.th ให้คุณอยู่ดี
3. สมัครผ่าน FITFAC Muay Thai ซึ่งทาง FITFAC จะช่วยตรวจสอบเอกสารและยื่นคำร้องขอ DTV visa ให้คุณ โดยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินเอกสาร 4,990 บาท ยังไม่รวมค่าคอร์สเรียนมวยไทยกับค่าธรรมเนียมสถานทูต (ในกรณีคำร้องขอวีซ่าของคุณถูกปฏิเสธ ทาง FITFAC ยินดีคืนเงินให้ 100%)
FITFAC ยินดีให้คำปรึกษาฟรี สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเรามาได้ที่ visa@fitfacmuaythai.com หรือดูแพ็กเกจเรียนมวยพร้อมวีซ่า DTV ที่ FITFAC ได้ที่นี่
1. ผู้สมัครต้องมีเงินฝากในบัญชีขั้นต่ำ 500,000 บาท (สกุลเงินใดก็ได้) โดยที่เงินฝากต้องอยู่ในบัญชีสะสมทรัพย์ หรือ บัญชีกระแสรายวันเท่านั้น สามารถใช้บัญชีเงินฝากในต่างประเทศยื่นในการเป็นหลักฐานได้ (ควรจะมีเงินแช่ในบัญชีขั้นต่ำ 3 เดือน ถ้าจะให้ดีควรจะมีเงินฝากแช่ไว้ 6 เดือน)
2. รูปถ่ายที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน
3. ถือหนังสือเดินทางอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน(ถ้าทางเราแนะนำควรจะมีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 2 ปี)
4. มีหลักฐานในการสนับสนุนเหตุผลที่ต้องการเข้ามาอยู่ประเทศไทยเป็นระยะเวลา 5 ปี อย่างใดอย่างหนึ่ง ใน 3 เหตุผลนี้
a. เข้ามาทำงานเป็น Freelance หรือ ทำงาน ให้กับบริษัทต่างชาติในประเทศไทย/ Youtuber/ Influencer ในประเทศไทย
b. เข้ามาในนามกิจกรรมของ Soft Power
– เรียนมวยไทย
– ทำอาหารไทย
– การรักษาทางการแพทย์ในไทย
– การสัมมนาในไทย
– การเข้าร่วมเทศการดนตรีในเมืองไทย
c. การติดตามบุคคลในครอบครัวที่ถือ DTV วีซ่า มาเรียบร้อยแล้ว เช่น สามีถือ DTV แล้ว ภรรยาติดตามสามีที่ถือ DTV เข้ามา
5. มีหลักฐานการแสดงที่อยู่ปัจจุบันของผู้สมัครในประเทศที่ยื่นขอวีซ่า
FITFAC ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยที่สามารถติดต่อเรามาได้ที่ visa@fitfacmuaythai.com หรือถ้าดูแพ็กเกจเรียนมวยพร้อมวีซ่า DTV ที่ FITFAC ได้ที่ ลิงก์นี้
ถ้าผู้สมัครยื่นขอวีซ่า DTV ในหมวดวีซ่าการทำงานจากระยะไกลหรือในหมวดของวีซ่าผู้ติดตาม ค่าใช้จ่ายจะมีแค่ค่าวีซ่าที่ต้องจ่ายโดยตรงให้กับสถานทูตประมาณ 10,000 บาท – 15,000 บาท ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละสถานทูต
ถ้าขอวีซ่า DTV ในหมวด Softpower จะมีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนมวยไทย หรือทำอาหารเพิ่มขึ้นมาอีก
FITFAC ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยที่สามารถติดต่อเรามาได้ที่ visa@fitfacmuaythai.com หรือถ้าดูแพ็กเกจเรียนมวยพร้อมวีซ่า DTV ที่ FITFAC ได้ที่ ลิงก์นี้
DTVVisaThailand.com เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดนโรงเรียนสอนมวยไทย FITFAC เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำวีซ่า DTV ให้กับชาวต่างชาติที่สนใจทำวีซ่า
FITFAC Muay Thai เป็นยิมมวยไทย อันดับ 1 ของประเทศไทย มีสาขาในกรุงเทพกว่า 11 สาขา นอกจากนี้เรายังได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการและจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการเป็นโรงเรียนสอนมวยไทยที่สามารถออกหนังสือรับรองไปขอวีซ่า DTV ได้
ทาง FITFAC ได้ประสบความสำเร็จในการยื่นขอวีซ่ามาแล้วกว่า 280 ราย โดยที่นักท่องเที่ยวที่มาเรียนมวยไทยกับเรามีมาจากประเทศ อังกฤษ อเมริกา สเปน ฝรั่งเศส ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี
เราคิดค่าบริการในการแนะนำการทำวีซ่า เริ่มต้นที่ 4990 บาท ทาง FITFAC ยินดีคืนเงินให้ 100% ในกรณีที่วีซ่าไม่ผ่าน และสำหรับผู้ที่ได้รับวีซ่าผ่านการลงทะเบียนเรียนกับ FITFAC ยังสามารถเปิดบัญชีธนาคารในเมืองไทย ซึ่งทำให้ชีวิตของคุณสะดวกขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
ดูข้อมูลเรื่องการเปิดบัญชีธนาคารกับ DTV Visa ได้ที่นี่
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อสำนักงานของเราได้ที่
DTV Visa Thailand โรงแรม Ascott สาทร ชั้น B1 ติด BTS เซนต์หลุยส์ ทางออกประตู 4
เวลาทำการ
วันจันทร์ – พฤหัส 13.00 – 21.00
วันอาทิตย์ 10.00 – 17.30
แนะนำให้นัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ามาที่ visa@fitfacmuaythai.com