ชาวต่างชาติจำนวนมากประสบปัญหาการชำระเงินในไทย เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารข้างทางจนถึงร้านค้าต่าง ๆ ในห้างล้วนแต่รับการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดทั้งสิ้น
บัญชีธนาคารไทยสำคัญอย่างไร
1. ระบบคิวอาร์โค้ด – บัญชีธนาคารของบางประเทศไม่สามารถสแกนจ่ายเงินด้วยระบบคิวอาร์โค้ดได้ ซึ่งระบบการรับชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดในไทยส่วนใหญ่ใช้ผ่าน บัญชีพร้อมเพย์ ซึ่งเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารในประเทศ
2. ร้านค้าไม่รองรับชำระด้วยบัตร – บัตรเครดิตสามารถใช้ชำระเงินได้เพียงในร้านค้าใหญ่ ๆ เท่านั้น แต่พ่อค้าแม่ค้ารวมถึงคนขับรถรับจ้างในไทยแทบจะทั้งหมด ไม่สามารถรับชำระด้วยบัตรเครดิตได้
3. ความยุ่งยากของเงินสด – การแลกเงินสดอาจจะเป็นเรื่องยุ่งยาก หากชาวต่าวชาติไม่คุ้นเคยกับสกุลเงินไทย อีกทั้งยังมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดในการรับเงินทอน
4. อัตราแลกเปลี่ยนดีกว่า – การโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยเสนออัตราแลกเปลี่ยนดีกว่าการถอนเงินสดสกุลต่างชาติจากตู้ ATM (โดยปกติ ธนาคารต่างประเทศคิดค่าธรรมการถอนเงินที่ไทยระหว่าง 5-7 %)
5. ปลอดภัยกว่า – การพกเงินสดจำนวนมากทำให้ชาวต่างชาติเสี่ยงต่อการถูกขโมยหรือทำเงินหาย การชำระเงินแบบดิจิทัลช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
การเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ที่ถือวีซ่า DTV (Destination Thailand Visa) ธนาคารไทยหลายแห่งได้เริ่มใช้มาตรการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์ฉ้อโกงทางการเงินหลายกรณีที่ได้รับความสนใจจากสื่อ ตามรายงานของ Pattaya Mail ผู้สมัครชาวต่างชาติจำนวนมากต้องเผชิญกับการปฏิเสธโดยไม่คาดคิด หรือถูกขอเอกสารเพิ่มเติม เช่น หลักฐานรายได้ หรือที่อยู่ในประเทศไทย แม้จะถือวีซ่าระยะยาวแล้วก็ตาม
มาตรการที่เข้มงวดนี้เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับเครือข่ายฉ้อโกงที่ใช้บัญชีธนาคารไทยในการฟอกเงิน หนึ่งในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดคือเหตุการณ์ที่ตำรวจจับกุมเจ้าหน้าที่ธนาคารในพัทยาที่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงของจีน รายงานจาก The Thaiger แสดงให้เห็นถึงขนาดของปัญหาและแรงกดดันที่ธนาคารต้องเผชิญในการตรวจสอบผู้สมัครให้รอบคอบยิ่งขึ้น
ผู้ถือวีซ่า DTV ยิ่งประสบปัญหาหนักขึ้น เพราะธนาคารบางแห่งไม่ต้องการเปิดบัญชีให้ เนื่องจากกังวลว่าบัญชีอาจถูกตรวจสอบหรือถูกปิดในอนาคต Nation Thailand รายงานว่า บัญชีธนาคารที่ใช้เป็นบัญชีม้าเพื่อโอนเงินผิดกฎหมาย มีมากกว่า 200,000 บัญชี และนั่นทำให้ธนาคารไทยต้องเข้มงวดกับผู้สมัครทุกคน ไม่ว่าจะถือวีซ่าประเภทใด
แม้แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่รอดพ้นจากสถานการณ์นี้ โดยเฉพาะในพัทยาที่นักท่องเที่ยวจีนต้องรีบถอนเงินหลังจากบัตรถูกอายัดเนื่องจากเกินวงเงินการถอนรายวัน ตามรายงานของ Pattaya Mail ธนาคารบางแห่งเริ่มขอเอกสารเพิ่มเติมแม้กระทั่งการถอนเงินสด ทำให้เกิดความกังวลในกลุ่มผู้ใช้บริการ
นอกจากประเด็นด้านการเงิน รัฐบาลไทยยังเข้มงวดในการตรวจสอบการใช้วีซ่าผิดประเภท เช่น วีซ่านักเรียนที่ถูกนำไปใช้ในการทำงาน Nation Thailand รายงานว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เพิ่มความเข้มงวดในกระบวนการตรวจสอบวีซ่า ซึ่งสะท้อนถึงการเชื่อมโยงกันของการควบคุมด้านการเงินและตรวจคนเข้าเมือง
หากคุณต้องการเปิดบัญชีธนาคารไทยจริง ๆ พวกเรา FITFAC สามารถช่วยเหลือคุณได้ พวกเราคือยิมมวยไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดมายาวนานกว่า 10 ปี มีทั้งหมด 11 สาขาทั่วกรุงเทพ เราเป็นเพียงยิมมวยไทยหนึ่งเดียวที่ธนาคารเชื่อใจและช่วยเหลือในการเปิดบัญชีให้ลูกค้าของเราได้ โดยผ่านความร่วมมือกับธนาคารคู่สัญญา (MOU)
หากคุณเป็นลูกค้า DTV Visa ที่ใช้จดหมายรับรองของ FITFAC สามารถติดต่อเราได้ที่ visa@fitfacmuaythai.com
สำหรับการเปิดบัญชีนั้น เราคิดค่าบริการอยู่ที่ 5,000 บาท ซึ่งค่าบริการนี้ประกอบด้วย
1. บริการรับ-ส่งถึงธนาคาร
2. การจัดเตรียมเอกสารให้ธนาคาร
3. การันตีคืนเงินค่าบริการ หากคุณไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้
นอกจากลูกค้า DTV ของ FITFAC แล้ว เรายินดีรับเปิดบัญชีธนาคารให้แก่ผู้ถือ DTV ภายใต้หมวด Workcation อีกด้วย เพียงแค่ส่งหลักฐานรับรองการทำงานหรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งใช้ยื่นขอวีซ่ามาให้เราพิจารณาที่อีเมล visa@fitfacmuaythai.com
ปัจจุบันมีการบังคับใช้กฎหมายและตรวจสอบอย่างเข้มงวด FITFAC จึงไม่สามารถให้บริการช่วยเหลือเปิดบัญชีให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศ รัสเซีย ยูเครน จีน ฮ่องกง อินเดีย เมียนมาร์ ปากีสถาน และประเทศจากทวีปแอฟริกา
หากคุณเป็นผู้ถือวีซ่า DTV ภายใต้หมวด Soft Power แต่ไม่ได้เกี่ยวกับข้องกับทาง FITFAC คุณควรลองสอบถามเกี่ยวกับโรงเรียนหรือสถาบันของคุณ ให้เตรียมเอกสารเหล่านี้ สำหรับการเปิดบัญชีกับธนาคาร
1. เอกสารรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ ที่ยืนยันว่าโรงเรียนสอนมวยไทยหรือสถาบันทำอาหารได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง
2. หนังสือรับรองบริษัทที่ออกโดยหน่วยงานรัฐบาล
3. หลักฐานการยื่นภาษีของบริษัทในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารจะพิจารณาความน่าเชื่อถือของโรงเรียนสอนมวยไทยหรือสถาบันทำอาหารที่มีรายได้ 30 ล้านบาทต่อปี
4. ภาพถ่ายหรือแผนที่ของโรงเรียนหรือสถาบันที่ผู้ถือวีซ่า DTV ลงทะเบียนเรียนด้วย
5. หนังสือรับรองผู้เรียนจากโรงเรียนหรือสถาบัน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อสำนักงานของเราได้ที่
DTV Visa Thailand โรงแรม Ascott สาทร ชั้น B1 ติด BTS เซนต์หลุยส์ ทางออกประตู 4
เวลาทำการ
วันจันทร์ – พฤหัส 13.00 – 21.00
วันอาทิตย์ 10.00 – 17.30
แนะนำให้นัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ามาที่ visa@fitfacmuaythai.com