สมัคร DTV VISA ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

สารบัญ เอกสาร DTV วีซ่า

Required Documents

เอกสารที่ใช้ในการสมัคร DTV นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละสถานทูต ซึ่งขึ้นอยู่กับ

 

1. สัญชาติของผู้สมัคร

 

2. ประเภทการขอวีซ่า DTV ว่าเป็น Workcation/ Soft Power หรือ วีซ่าผู้ติดตาม

 

3. สถานทูตไทยที่ยื่นสมัครแต่ละประเทศ

 

4. ช่วงเวลาในการสมัคร

 

ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัครแตกต่างกัน จากประสบการณ์ของเรา มีบางกรณีที่สถานทูตใช้เวลาอนุมัติภายใน 4 วัน และแทบไม่ขอเอกสารเพิ่มเลย บางกรณีสถานทูตใช้เวลาถึง 4 สัปดาห์ และมีการขอเอกสารเพิ่มมากมายตั้งแต่ ประวัติการทำงาน ประกันสุขภาพ สัญญาเช่าในไทย

 

ดังนั้นการจะระบุว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ทางเราจะต้องดูข้อมูลของผู้สมัครแต่ละคนก่อนถึงจะสามารถให้คำแนะนำได้ดีที่สุด 

 

ซึ่งทาง FITFAC มีการยื่นขอวีซ่า DTV มาแล้วกว่า 280 ท่าน ผ่านสถานทูตกว่า 30 แห่งทั่วโลกทำให้เรามีประสบการณ์มากพอที่จะแนะนำเอกสารที่เหมาะสมที่สุดกับเคสของคุณ

 

สนใจสอบถามการขอวีซ่า กับเราได้ที่ visa@fitfacmuaythai.com หรือคลิกที่นี่ เราให้คำแนะนำในการขอวีซ่า เริ่มต้นที่ ราคา 4990 บาทต่อเคส และทางเราจะคืนเงิน 100% ทันทีในกรณีที่คุณไม่ได้รับวีซ่า (เรารับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่าน PayPal)

หนังสือเดินทางที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

หนังสือเดินทางควรจะมีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก่อนที่จะยื่นวีซ่า ไม่งั้นทางสถานทูตอาจจะปฏิเสธการออกวีซ่าให้ทันที 

 

 

แต่เราจะแนะนำลูกค้าที่ต้องการได้หนังสือรับรองจากทางเราสำหรับยื่นขอวีซ่า DTV เสมอว่า ถ้าหนังสือเดินทางเหลืออายุน้อยกว่า 1 ปีและลูกค้าสามารถเดินทางไปทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่โดยที่ไม่ลำบากมากนัก เราจะแนะนำให้ทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่เลย ก่อนขอวีซ่า DTV 

 

ในกรณีที่วีซ่า DTV อยู่ในหนังสือเดินทางที่หมดอายุแล้ว ทางลูกค้าต้องเดินทางไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อโอนย้ายวีซ่าจากหนังสือเดินทางเล่มเก่ามาเล่มใหม่ ซึ่งก็จะเสียเวลาเพิ่มเติมในภายหลังเช่นกัน 

 

เราจึงแนะนำให้ลูกค้าเตรียมหนังสือเดินทางให้พร้อมทีเดียวเลย เพื่อที่เวลาได้วีซ่า DTV มา 5 ปีแล้วไม่ต้องมากังวลเรื่องการย้ายวีซ่าจากหนังสือเดินทางที่หมดอายุแล้วอีก

รูปถ่ายของคุณที่มีอายุไม่มากกว่า 6 เดือน

ICAO Standard

 

รูปถ่ายที่ใช้ยื่นขอวีซ่า ควรเป็นรูปภาพที่ถ่ายไม่นานกว่า 6 เดือน และผ่านมาตรฐานของที่ผ่านมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)

 

– หน้าตรงเท่านั้น อมยิ้มได้เล็กน้อย ห้ามเห็นฟัน

 

– ฉากหลังควรเป็นสีขาว ห้ามมีเงาหรือแสงสะท้อนที่ใบหน้าหรือฉากหลัง

 

– เส้นผมไม่ควรลงปิดหางคิ้วทั้ง 2 ข้าง

 

– ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ หมวก ที่คาดผม หรือติดกิ๊บที่ไม่ใช่สีดำ

 

– หากใส่แว่นตา กรอบแว่นและเลนส์ต้องเป็นแบบใสเท่านั้น ควรเห็นดวงตา 2 ข้างชัดเจน ห้ามบดบังดวงตาเด็ดขาด

เงิน 500,000 บาทในบัญชีธนาคาร

คุณต้องมีจำนวนเงินขั้นต่ำ 500,000 บาทไทย หรือประมาณ 16,000 USD, 14,500 EUR ในบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวันเท่านั้น

 

สถานทูตจะไม่พิจารณาบัญชีกองทุนรวม บัญชีหุ้น บัญชีหลักทรัพย์ หรือบัญชีสกุลเงินดิจิทัล เด็ดขาด

 

ชื่อที่แสดงในบัญชีธนาคารต้องตรงกับชื่อที่อยู่ในหนังสือเดินทาง และวันที่ที่แสดงเงินคงเหลือ ไม่ควรนานเกิน 7 วันนับจากวันที่ยื่นขอวีซ่า

 

ณ ปัจจุบัน สถานทูตไทยในหลายประเทศจะให้ผู้ยื่นขอวีซ่าแสดงประวัติการทำธุรกรรมย้อนหลังอย่างน้อย 3 เดือน และควรจะมีเงิน 500,000 บาทในบัญชีทั้ง 3 เดือน แต่จะมีบางประเทศที่ใช้เกณฑ์ในการพิจารณาต่างกันออกไป อย่างเช่น

 

– สถานทูตไทย ณ กรุงฮานอยที่ต้องแสดงหลักฐานการเงินย้อนหลัง 6 เดือน แต่จำนวนเงิน 500,000 บาท จะอยู่ในบัญชีมาแล้วไม่นานก็ได้ 

 

– สถานทูตไทย ณ สิงคโปร์ต้องแสดงหลักฐานการมีเงิน 500,000 บาทอยู่ในบัญชีมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 เดือน

 

Bank Statement DTV

 

สำหรับผู้ที่ใช้หลักฐานเงินฝากของบุคคลอื่น เช่น สามีมีเงินฝากเกิน 500,000 บาท ออกจดหมายรับรองการสนับสนุนทางการเงินให้ภรรยา ควรมีหลักฐานการเชื่อมโยงระหว่างผู้รับรองและผู้ได้รับการรับรองด้วย

 

หลักฐานทางการเงินควรขอเป็นเอกสารโดยตรงจากธนาคาร(ไม่ควรใช้ภาพจากมือถือ หรือการถ่ายภาพจากคอมพิวเตอร์) เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ หรือเป็นภาษาที่ตรงกับสถานทูตที่ยื่นขอวีซ่า เช่น ถ้ายื่นขอวีซ่าที่สถานทูตไทยในญี่ปุ่น สามารถใช้เป็นภาษาญี่ปุ่นได้

 

ในกรณียื่นขอที่สถานทูตที่ไม่ตรงกับสัญชาติตัวเอง จำเป็นต้องแปลหลักฐานทางการเงินเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสารจากธนาคารหรือหน่วยงานรัฐบาลในประเทศต้นทางของเจ้าของเอกสาร

 

หลักฐานแสดงรายได้

 

กฎเกณฑ์การพิจารณาตั้งแต่เริ่มต้นของกระทรวงการต่างประเทศนั้นระบุว่า หากคุณยื่นขอวีซ่า DTV ด้วยจุดประสงค์สำหรับสนับสนุน Soft Power ของไทย สถานทูตจะไม่ขอให้คุณต้องแสดงหลักฐานรายได้ หรือหนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้างของคุณ

 

แต่ตั้งแต่ต้นปี 2568 เป็นต้นมา บางสถานทูตเริ่มมีเกณฑ์ และมาตรการที่ใช้ในการพิจารณาวีซ่า DTV ที่เข้มงวดมากขึ้น อย่างเช่น สถานทูตไทย ณ กรุงราบัต ยืนยันให้ผู้สมัครต้องแสดงหนังสือรับรองจากนายจ้าง แม้ผู้สมัครจะทำงานเป็นฟรีแลนซ์ก็ตาม หรืออย่างฝ่ายกงสุลของไทเป ประเทศไต้หวันที่ผู้สมัครต้องแสดงหลักฐานที่ยืนยันถึงรายได้ประจำของผู้สมัคร อย่างเช่น สลิปเงินเดือน เป็นต้น

 

income requirement

 

*สถานทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ระบุว่าผู้สมัครต้องแสดงหลักฐานรายได้ย้อนหลัง 6 เดือน

 

ดังนั้นแล้วคุณควรเตรียมหลักฐานแสดงแหล่งรายได้ หรือสอบถามสถานทูตต้นทางก่อนว่า พวกเขาต้องการเอกสารทางการเงินอะไรบ้างสำหรับการยื่นขอวีซ่า DTV

หลักฐานแสดงที่อยู่ปัจจุบัน

เนื่องจากชาวต่างชาติไม่สามารถยื่นขอวีซ่า DTV ในประเทศไทยได้ จำเป็นต้องยื่นขอที่ต่างประเทศเท่านั้น โดยสถานทูตไทยในทุกประเทศได้เปลี่ยนระบบการยื่นขอวีซ่าเป็นแบบออนไลน์หมดแล้วและแทบทุกแห่งไม่อนุญาตให้คุณเดินทางเข้าติดต่อโดยตรงที่สถานทูต ผู้สมัครจึงจำเป็นจะต้องยื่นแสดงหลักฐานที่อยู่ ณ ปัจจุบันในประเทศนั้น ๆ ผ่านเวบไซต์อย่างเดียว

 

DTV bill Gas

 

หลักฐานระบุที่อยู่ สำหรับผู้สมัครวีซ่าในประเทศบ้านเกิด
– ใบขับขี่
– ใบเสร็จค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในชื่อตนเอง

 

หลักฐานระบุที่อยู่ สำหรับผู้สมัครวีซ่านอกประเทศบ้านเกิด
– หลักฐานการชำระเงินจองที่พัก
– ตั๋วเครื่องบิน
– ตราประทับเข้าประเทศ

 

สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยหรือคำถามว่าจะใช้เอกสารระบุตำแหน่งปัจจุบันอันไหนดีสำหรับการขอวีซ่า DTV เพื่อใช้ระบุสถานที่อยู่ในปัจจุบัน สามารถส่งอีเมลเข้ามาสอบถามเราได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ visa@fitfacmuaythai.com

เอกสารประกอบ

ผู้สมัครสามารถเลือกจุดประสงค์สำหรับขอวีซ่า DTV ได้เพียง 1  ประเภทจากทั้งหมด 3 ประเภทเท่านั้น คือ

 

– DTV Workcation

– DTV Softpower 

– DTV Spouse and Children

 

ซึ่งหากคุณเลือกจุดประสงค์แบบไหน ต้องมีหลักฐานทางเอกสารที่ยืนยันและสนับสนุนจุดประสงค์ประเภทนั้น

 

Purpose of visit

เอกสารสำหรับ DTV Workcation

 

ผู้ขอวีซ่าทำงานระยะไกลในไทยต้องมีหลักฐานยืนยันว่าทำงานได้จากทุกที่ และบริษัทที่จ้างต้องไม่อยู่ในไทย มิฉะนั้นจะถูกแนะนำให้ยื่นขอวีซ่าทำงานแทน

 

การทำงานระยะไกลที่มีสิทธิ์จะได้วีซ่า DTV มีทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่

 

Digital Nomad เช่น อาชีพโปรแกรมเมอร์, กราฟฟิกดีไซน์เนอร์, นักแปล, นักตัดต่อ VDO

 

Remote Worker – คนที่สามารถทำงานระยะไกลจากที่ไหนในโลกก็ได้

 

Foreign Talent – อาชีพที่ปรึกษา นักธุรกิจที่มีความสามารถสูง

 

Freelancer – อาชีพยูทูปเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์

รัฐบาลไทยต้องการดึงดูดกลุ่มคนทำงานระยะไกลที่สามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ในโลก หลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อให้รายได้จากกลุ่มคนกำลังซื้อสูงเหล่านี้เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองไทย
 

DTV visa digital nomad

 

สถานทูตไทยในแต่ละประเทศมีกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันสำหรับพิจารณาหลักฐานเอกสารของผู้ที่ยื่นขอวีซ่า DTV ด้วยประเภทนี้  ดังนั้นคุณจึงควรแนบเอกสารประกอบคำร้องไปให้มากที่สุด โดยที่เอกสารที่ทางสถานทูตมองหาและให้น้ำหนักสูงที่สุดจะเป็นเอกสารที่ออกโดยภาครัฐของประเทศนั้นๆ รองลงมาคือ เอกสารการรับรองที่ออกมาจากบริษัทที่คุณทำงานอยู่

 

สำหรับคนที่ทำงานอาชีพอิสระ เช่น รับงานโดยตรงจาก Fiverr หรือ งานจ้างต่างๆจาก Platform หางานออนไลน์ ให้นำหน้าจอที่แสดงถึงรายได้ ที่ได้รับจาก Platform เหล่านี้มาแสดง พร้อมทั้ง ผลงานในอดีตที่ผ่านมา ที่เคยทำให้กับลูกค้าที่อยู่ใน Platform เหล่านี้ แนบเป็นไฟล์ PDF แล้วส่งให้กับสถานทูต

 

ตัวอย่างเอกสารสำหรับผู้ยื่นคำร้องด้วยประเภท Workcation

 

1. จดหมายแนะนำตัวหรือเรซูเม่ อธิบายถึงประวัติส่วนตัว การศึกษา และประสบการณ์การทำงาน

 

2. Portfolio หรือผลงานของตัวเองทั้งอดีตและปัจจุบัน

 

3. แนบหลักฐานการทำงานเช่น Profile ใน LinkedIn/ Website, หนังสือรับรองจากบริษัทว่าผู้สมัครสามารถทำงานระยะไกลในประเทศไทยได้ โดยต้องเซ็นอนุมัติจากผู้บริหารระดับสูงหรือผู้จัดการฝ่ายบุคคลเท่านั้น 

 

4. แนบหลักฐานรายได้ในปัจจุบัน เช่น สลิปเงินเดือน, หนังสือรับรองเงินเดือน, หลักฐานแสดงรายได้จาก Platform ต่าง ๆ เป็นต้น

 

5. แนบหลักฐานการยื่นภาษี หรือคำขอคืนทางภาษี ที่ได้มาจากทางการ

 

บริการช่วยเหลือด้านเอกสาร

 

ในกรณีที่คุณไม่รู้ว่าจะเตรียมเอกสารอย่างไร ทาง FITFAC มีบริการให้คำแนะนำในการเตรียมเอกสารสำหรับยื่นวีซ่าออนไลน์ให้ด้วย โดยทางเราจะคิดค่าบริการ ที่ 4,990 บาท  โดยผู้ที่เลือกใช้บริการของเราจะได้รับกางเกงมวยไทย 1 ตัว มูลค่า 1,200 บาท โดยเราจะจัดส่งไปยังที่อยู่ของคุณในประเทศไทย ดูรายละเอียดได้ที่นี่

 

DTV Visa Approved

 

สำหรับคนที่ไม่ได้ทำงานแล้วแต่ต้องการอยู่เมืองไทย และมีเงินในบัญชีขั้นต่ำ 5 แสนบาทไทย รัฐบาลไทย ก็มีทางเลือกสำรองให้ในการขอวีซ่า DTV นั่นก็คือ DTV Softpower

 

เอกสารสำหรับ DTV Soft Power (เรียนมวยไทย)

 

DTV Visa Softpower เป็นนโยบายที่รัฐบาลไทย อยากจะได้นักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังซื้อสูง มาใช้จ่ายในเมืองไทย และเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเหล่านี้ได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยที่มีชื่อเสียง โดยที่รัฐบาลไทย ได้ให้กรอบกว้างๆในการทำกิจกรรมที่สามารถขอวีซ่า DTV ได้ดังนี้

 

การเรียนมวยไทย/ การทำอาหาร/ การเข้าร่วมสัมมนา/ การเข้ารับการรักษาพยาบาล ที่มีระยะเวลาเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวยาวนานมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป หากเอกสารหลักฐานการทำกิจกรรมของคุณมีระยะเวลายาวนานไม่พอ สถานทูตอาจจะปฏิเสธคำร้องหรือเปลี่ยนประเภทวีซ่าของคุณเป็นประเภทอื่นแทนได้

 

หลักเกณฑ์เรื่องเอกสารสนับสนุนวีซ่า DTV กิจกรรมนั้นต้องเป็นกิจกรรมที่มีเอกสารรับรองจากรัฐบาลไทยโดยตรงเช่น ถ้าจะเรียนมวยไทยแล้วขอวีซ่า DTV ได้ ต้องเป็นโรงเรียนสอนมวยไทย ที่จดทะเบียนขึ้นตรงกับกระทรวงศึกษาธิการ หรือถ้าเป็นค่ายมวยไทยอาชีพต้องจดทะเบียนค่ายมวยไทยอาชีพกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ทาง FITFAC ได้จดทะเบียนเป็นทั้งโรงเรียนสอนมวยไทย และค่ายมวยไทยอาชีพ อีกทั้งยังเราออกหนังสือรับรองให้กับชาวต่างชาติที่ขอวีซ่า DTV มาแล้วกว่า 200 คน – ข้อมูลถึงเดือนมีนาคม 2025)

 

ตัวอย่าง การเช็คว่าเป็นโรงเรียนที่ขึ้นตรงกับกระทรวงศึกษาธิการ สามารถเช็คได้จาก https://school.opec.go.th/school/1110204891

 

ซึ่งเว็บไซต์ school.opec.go.th จะเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวม รายชื่อโรงเรียนที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงศึกษาธิการไว้ 

 

  FITFAC DTV School

 

*รูปการขึ้นทะเบียนโรงเรียนสอนมวยไทย FITFAC

 

Fairtex DTV

 

*รูปภาพการขึ้นทะเบียนโรงเรียนสอนมวยไทย Fairtex

 

Tiger DTV Visa

 

*รูปภาพการขึ้นทะเบียนโรงเรียนสอนมวยไทย ไทเกอร์มวยไทย

 

การขอหนังสือตอบรับจากโรงเรียนสอนมวยไทย หรือ โรงเรียนสอนทำอาหาร เพื่อใช้ในการยื่นขอวีซ่า DTV ควรขอเอกสารจากสถาบันการศึกษาที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น 

 

ในอดีตที่ผ่านมาสถานทูตไทยหลายๆแห่งยังไม่ได้มีข้อกำหนดว่าต้องใช้เอกสารรับรองจากสถาบันที่จดทะเบียนโรงเรียนด้วย แต่ในตอนนี้เกือบทุกสถานทูต มีเงื่อนไขว่า เอกสารการรับรองที่จะยื่นขอวีซ่า DTV ได้ต้องมาจากโรงเรียนสอนมวยไทยที่ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาลไทย และควรมีระยะเวลาในการเรียนไม่ต่ำกว่า 6 เดือน 

 

DTV muaythai school

 

*ข้อความเงื่อนไขในการสมัครวีซ่า DTV จากสถานทูตไทย

 

เพราะฉะนั้นถ้าคุณต้องการ หาสถานที่สำหรับออกเอกสารสมัครวีซ่า DTV คุณควรจะพิจารณาปัจจัย ดังต่อไปนี้

 

1. โรงเรียนสอนมวยไทย หรือ โรงเรียนสอนทำอาหารที่จดทะเบียนกับกระทรวงศึกษาธิการ

 

DTV school letter

 

*ใบอนุญาตโรงเรียนสอนมวยไทยของ FITFAC

 

2. ระยะเวลาคอร์สเรียนมวยไทย หรือคอร์สเรียนทำอาหารไม่น้อยกว่า 6 เดือน

 

3. ที่ตั้งของโรงเรียนควรจะอยู่ใกล้กับที่อยู่ของคุณหลังจากได้รับวีซ่าแล้ว ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณขอวีซ่า เพื่อมาอยู่ในกรุงเทพ โรงเรียนสอนมวยไทยที่คุณยื่นขอวีซ่าก็ควรที่จะอยู่ในกรุงเทพ (การยื่นเอกสารจากโรงเรียนที่ไม่ได้อยู่ใกล้กับที่อยู่ของคุณอาจจะทำให้สถานทูตปฏิเสธวีซ่าคุณได้ และคุณอาจจะมีปัญหากับทางตำรวจคนเข้าเมืองในอนาคต เมื่อต้องรายงานตัว 90 วันเช่นกัน)

 

FITFAC Location

 

*FITFAC มี 11 สาขาทั่วกรุงเทพ

 

4. ควรเลือกโรงเรียนสอนมวยไทย หรือโรงเรียนทำอาหารที่มีชื่อเสียง เปิดทำการมานาน เพราะในปัจจุบัน มีโรงเรียนหลายแห่งเปิดตัวขึ้นมาเพื่อออกเอกสารรับรองเพื่อขอวีซ่า DTV โรงเรียนเหล่านี้มีความเสี่ยงถูกสั่งปิดสูง เนื่องจากจะมีการออกหนังสือรับรองราคาถูกมากๆ ให้กับคนที่ต้องการมาอยู่เมื่องไทยแบบผิดกฎหมาย 

 

ถ้าคุณเกิดไปขอหนังสือรับรองจากสถาบันเหล่านี้ แล้วในท้ายที่สุด สถาบันเหล่านี้ถูกเพิกถอนใบอนุญาต วีซ่า DTV ของคุณก็มีโอกาสถูกเพิกถอนเช่นกัน ดูข่าวการเพิกถอนวีซ่าจากโรงเรียนสอนภาษาไทยในภูเก็ต  และ ข่าวตำรวจบุกจับโรงเรียนสอนมวยไทยที่ไม่มีใบอนุญาต

 

นอกจากนี้คุณควรที่จะติดต่อสถาบันการศึกษาโดยตรงถ้าสนใจที่จะทำวีซ่า DTV เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา มี Visa Agent หลายแห่งที่ปลอมแปลงเอกสารของทางโรงเรียน แล้วเก็บเงินนักท่องเที่ยวเพื่อออกเอกสารรับรองการทำวีซ่า

 

ในกรณีที่ทางการไทยจับนักท่องเที่ยวที่ใช้เอกสารปลอมจากทางเอเจนท์ในการขอวีซ่า นักท่องเที่ยวมีโอกาสที่จะโดนข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ซึ่งมีโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี 

 

การสมัครวีซ่า DTV ที่ดีที่สุดคือการสมัครโดยตรงกับสถาบันการศึกษา หรืออย่างน้อยมีการติดต่อสถาบันการศึกษาโดยตรงว่าได้รับเอกสารเรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะโดนดำเนินคดีทางกฎหมายในไทยได้

 

โดยสรุปถ้าคุณต้องการได้วีซ่า DTV โดยใช้จุดประสงค์การเรียนมวยไทย ให้เลือกโรงเรียนสอนมวยไทยที่ได้รับการรับรองจาก รัฐบาลไทย ควรเป็นโรงเรียนที่เปิดมานาน มีที่ตั้งที่ชัดเจน มีการเรียนการสอนจริงๆเกิดขึ้น อีกทั้งไม่ควรเลือกสถานที่ที่ยินดีออกวีซ่าในราคาถูกที่สุด แต่ควรเลือกสถานที่ที่คุณสะดวกที่สุดในการเข้าเรียนมวยไทยที่นั่น 

 

ถ้าคุณอยู่ในกรุงเทพ และต้องการเรียนมวยไทยพร้อมได้วีซ่า DTV 5 ปีสามารถสมัครเรียนมวยไทยที่ FITFAC เรามีทั้งหมด 11 สาขาเปิดมาแล้วกว่า 10 ปี มีนักเรียนที่ได้วีซ่ากับเรามากว่าแล้ว 160 คน ดูข้อมูลการสมัคร DTV กับ Fitfac ได้ที่นี่ 

 

Muay Thai

เอกสาร DTV คู่สมรสและบุตร

 

รัฐบาลไทยนอกจากอยากจะได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวรายได้สูงที่จะเข้ามาทำงานในเมืองไทยแล้ว ก็ยังอยากให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้ย้ายครอบครัวมาอยู่ที่เมืองไทยด้วยเช่นกัน เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายสูงมากเพราะต้องมีการจองที่พักขนาดใหญ่ จับจ่ายใช้สอยในร้านอาหารและซื้อของให้กับครอบบ่อยกว่า นักท่องเที่ยวที่ไม่มีครอบครัว

 

ด้วยเหตุนี้ DTV visa ประเภทคู่สมรส และบุตร จึงเป็นวีซ่าที่ของ่ายที่สุดเลย เพียงแค่คุณมีเอกสารดังต่อไปนี้

 

1. เอกสาร DTV ของสามี หรือ ภรรยา ที่ได้รับวีซ่าเรียบร้อยแล้ว 

 

2. มีใบสำคัญการสมรส โดยชื่อในใบต้องตรงกับชื่อในเอกสาร DTV และหนังสือเดินทาง

 

3. ในกรณีที่บุตรอายุไม่เกิน 20 ปีก็ต้องใช้ใบรับรองบุตร หรือใบเกิดที่มีชื่อพ่อหรือแม่เป็นผู้ถือวีซ่า 

 

หลักฐานทางการเงิน 5 แสนบาท ในกรณีที่เป็นคนในครอบครัวเช่น สามีถือวีซ่า DTV สามารถร่าง หนังสือรับรองทางการเงินว่าจะให้การดูแลค่าใช้จ่ายของภรรยาและลูกตลอดระยะเวลาทีอยู่ในเมืองไทย

 

สำหรับคนที่สงสัยว่า ถ้ามีสามี ภรรยา และลูก 2 คน ต้องมีเงิน 500,000 บาท ในบัญชีก็เพียงพอสำหรับการยื่นวีซ่า ให้กับทั้งครอบครัวหรือไม่? หรือควรจะมีเงิน 500,000 บาทx4 เพื่อให้เพียงพอกับการดูแลค่าใช้จ่ายทั้ง 4 คน

 

ทางสถานทูตยังไม่ได้ออกหลักเกณฑ์ตรงนี้ออกมาอย่างชัดเจน แต่ถ้าทางเราแนะนำจะให้มีเงินสำรองคนละอย่างน้อย 5 แสนบาทไปเลย เพราะในความเป็นจริงแล้วเงินแค่ 5 แสนบาท มันแทบจะไม่เพียงพอในการอยู่ในเมืองไทย แบบครอบครัวตลอดระยะเวลา 5 ปี

 

ในการขอวีซ่า  DTV แบบ Spouse เราจะแนะนำให้ผู้ที่มีเงินสดในบัญชีมากที่สุดของครอบครัวขอก่อน แล้วพอ มีคนนึงได้วีซ่า ค่อยขอเอกสารให้ผู้ติดตามที่เหลือตามหลังมา 

 

ไม่ควรขอพร้อมกันทั้งหมดทีเดียวเนื่องจากถ้าผู้ขอหลัก โดนปฏิเสธวีซ่า ทางผู้ติดตามก็จะเสียค่าธรรมเนียมขอวีซ่าไปด้วยเช่นกัน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ติดต่อสำนักงานของเราได้ที่

 

DTV Visa Thailand โรงแรม Ascott สาทร ชั้น B1 ติด BTS เซนต์หลุยส์ ทางออกประตู 4

 

เวลาทำการ

วันจันทร์ – พฤหัส 13.00 – 21.00

วันอาทิตย์ 10.00 – 17.30

 

แนะนำให้นัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ามาที่ visa@fitfacmuaythai.com