ค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่า DTV นั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความพร้อมเอกสารของแต่ละคน ซึ่งวีซ่า DTV นั้นถือว่าเป็นวีซ่า ระยะยาวของเมืองไทย ที่มีค่าใช้จ่ายที่ถูกที่สุดแล้ว เมื่อเที่ยบกับวีซ่า ระยะยาวของเมืองไทยประเภทอื่นๆเช่น วีซ่าคู่สมรส วีซ่าเกษียณอายุ วีซ่าธุรกิจ หรือแม้แต่วีซ่านักเรียน
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับเอกสารสำหรับการยื่นขอวีซ่า DTV จะขึ้นอยู่กับหมวดหมู่วัตถุประสงค์ของการเดินทาง ดังนี้:
ขอวีซ่าด้วยหมวดหมู่ Workcation และหมวดหมู่คู่สมรสหรือบุตร
– ผู้สมัครใน 2 ประเภทนี้สามารถจัดเตรียมเอกสารได้ด้วยตนเองโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ขอด้วยหมวดหมู่เข้าร่วมกิจกรรม Soft Power ของไทย
– ผู้สมัครที่เข้าร่วมกิจกรรม เช่น การฝึกมวยไทย การเรียนทำอาหาร หรือการรักษาทางการแพทย์ อาจมีค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสาร เช่น
– ยิมมวยไทย: ค่าสมัครเรียนมวยไทยสำหรับออกหนังสือรับรอง
– โรงเรียนสอนทำอาหาร: ค่าเรียนหรือค่าโปรแกรมที่รวมการออกเอกสาร
– โรงพยาบาล/คลินิก: ค่าธรรมเนียมสำหรับประวัติการรักษาหรือใบรับรองทางการแพทย์
หมายเหตุสำคัญ:
เอกสารรับรองทั้งหมดต้องออกโดยสถาบันที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลไทยเท่านั้น เพื่อให้สามารถใช้ยื่นขอต่อสถานทูตหรือกงสุลได้
วัตถุประสงค์ของวีซ่า DTV
รัฐบาลไทยมีเป้าหมายหลักในการออกวีซ่า DTV เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยดึงดูดชาวต่างชาติที่มีรายได้สูงและยินดีใช้จ่ายในระยะยาวในประเทศไทย
หลักการพิจารณาอนุมัติวีซ่าของสถานทูต
ค่าใช้จ่ายสูงและมีสัญญาผูกพันระยะยาว:
ผู้สมัครที่แสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายที่มีนัยสำคัญและต่อเนื่องในสถาบันหรือกิจกรรมที่ได้รับการอนุมัติ (เช่น การลงเรียนหลักสูตรระยะยาว การเข้าร่วมโปรแกรมการแพทย์ หรือการลงทุนที่มีมูลค่าสูง) มีแนวโน้มที่จะได้รับการอนุมัติวีซ่าสูงกว่า
ค่าใช้จ่ายต่ำและมีความผูกพันระยะสั้น:
ผู้สมัครที่ตั้งใจเข้าร่วมกิจกรรมที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยหรือมีระยะเวลาเข้าร่วมในระยะสั้น อาจถูกพิจารณาออกวีซ่าประเภทอื่นให้แทน และสถานทูตอาจตั้งคำถามเกี่ยวกับเจตนาของผู้สมัครและปฏิเสธวีซ่าหากพบข้อกังวล เช่น:
– การใช้วีซ่า DTV เพื่อทำงานในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย
– ความเป็นไปได้สูงในการก่ออาชญากรรมทางการเงิน
* อีเมลรับแจ้งจากชาวญี่ปุ่นที่สมัครเข้าร่วมสัมนาเพื่อหวังจะขอวีซ่า DTV 5 ปี แต่กลับได้รับวีซ่าประเภทอื่นมาแทน
ข้อแนะนำเพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติวีซ่า
ผู้สมัคร DTV ควรแสดงให้เห็นถึงการผูกพันระยะยาวกับกิจกรรม Soft Power และลงทะเบียนกับองค์กรที่มีชื่อเสียงซึ่งได้รับการรับรองให้สามารถออกจดหมายยอมรับสำหรับวีซ่า DTV ได้
FITFAC มีแพ็คเกจเรียนมวยไทยแบบส่วนตัว จำนวน 45 ครั้ง จำกัดระยะเวลาใน 9 เดือน ราคา 35,990 บาท ซึ่งในราคานี้คุณสามารถมาเรียนแบบกลุ่มได้ทุกวันอีกด้วยตลอดระยะเวลา 9 เดือน เราประสบความสำเร็จในการออกหนังสือรับรองสำหรับวีซ่า DTV มาแล้วกว่า 160 ราย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเรามาได้ที่ visa@fitfacmuaythai.com หรือ คลิกที่นี่
ค่าธรรมเนียมขอวีซ่า DTV จะแตกต่างกันไปในแต่ละสถานทูต ซึ่งส่วนใหญ่จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท จนถึง 15,000 บาท ยกเว้นสถานทูตไทยในนิวซีแลนด์ที่คิดค่าธรรมเนียมสูงถึง 40,000 บาท
ซึ่งหากคำร้องขอวีซ่าของคุณปฏิเสธ สถานทูตจะไม่คืนเงินในส่วนนี้ให้คุณ
สำหรับการจ้างวีซ่าเอเจนซี่ให้ช่วยเตรียมเอกสาร DTV นั้นมีราคาอยู่หลากหลายมาก เช่น ช่วยรีวิวเอกสาร ที่เริ่มที่ครั้งละ 8,000 บาท จนไปถึงแบบพาไปสมัครที่สถานทูตไทยในต่างประเทศ ถึง 120,000 บาท ซึ่งบริษัทเอเจนซี่หลาย ๆ แห่งก็ไม่รับประกันผล หรือมีนโยบายคืนเงินหากคำร้องของผู้สมัครถูกปฏิเสธ
นอกจากนี้บริษัทเอเจนซี่อาจจะปลอมแปลงเอกสารของคุณ ทำผิดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กระทรวงการต่างประเทศได้ระบุไว้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้วีซ่าโดยที่คุณไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
การปลอมแปลงเอกสารเหล่านี้ถ้าทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพบและมีการสอบสวนขึ้นมา(ซึ่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีความเชี่ยวชาญในการสังเกตเอกสารปลอมมาก) คุณจะมีความผิดข้อหาปลอมแปลงเอกสารโดยทันที และมีสิทธิ์ที่จะถูกจำคุกในไทยถึง 3 ปี
ดูข่าวการปลอมแปลงเอกสารขอเอเจนท์ได้ที่นี่
** ทางสถานทูตไทยในจีนเตือนผู้สมัครวีซ่าว่า ถ้าคุณยื่นวีซ่าผ่านผู้อื่น แล้วผู้นั้นปลอมแปลงเอกสาร ผู้ที่สมัครวีซ่าต้องเป็นคนรับผิดชอบผลลัพท์นั้นเอง ไม่สามารถโทษว่าเป็นความผิดของผู้อื่นได้
สำหรับ FITFAC มวยไทย เราเป็นโรงเรียนสอนมวยไทยอันดับ 1 ของเมืองไทย มีสาขาในกรุงเทพกว่า 11 สาขา เปิดมาแล้วกว่า 10 ปี เราได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(ซึ่งต้องได้รับการรับรองจากสองกระทรวงนี้เท่านั้นจึงจะสามารถยื่นเอกสารขอวีซ่า DTV ได้)
นอกจากนี้ทาง FITFAC ยังมีนโยบายที่คัดเลือกนักเรียนอย่างระมัดระวัง เราไม่ออกเอกสารการขอวีซ่า DTV ให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่น ชาวจีน ฮ่องกง พม่า อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา และประเทศแถบแอฟริก เนื่องจากนักท่องเที่ยวในกลุ่มเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงมากที่จะมีการใช้วีซ่า DTV มาทำผิดกฎหมายหรือแอบทำงานในประเทศไทย ซึ่งอาจจะส่งผลให้ใบอนุญาตในการออกหนังสือ DTV ของเราโดนยกเลิก และทำให้ผู้ที่ขอวีซ่าไปกับเราเสี่ยงโดนเพิกถอนวีซ่า เช่นกัน
สำหรับคนที่ติดต่อทางเรามาแล้วแจ้งว่าไม่สนใจเรียนมวยไทย แล้วต้องการแค่เอกสารขอราคาถูกๆ ทาง FITFAC ยืนยันว่าจะไม่มีการออกเอกสารราคาถูกให้เด็ดขาด เราเป็นยิมมวยที่มีชื่อเสียงต้องรักษา เราไม่ใช่โรงงานผลิตวีซ่าเถื่อนที่ทางการไทยมีการกวาดล้างมาโดยตลอด
ถ้าคุณต้องการวีซ่า DTV ราคาถูกที่สุดเราแนะนำให้ไปใช้บริการที่อื่นจะดีที่สุด แต่เราอยากให้คุณรู้ไว้เลยว่า สถานที่อื่นๆที่เก็บค่าออกเอกสารราคาถูก สถานที่เหล่านี้จะเป็นตัวดึงดูดคนที่ต้องหลบหนีเข้ามาทำงานในเมืองไทย และอาจจะมีผลให้วีซ่า DTV ของคุณถูกยกเลิกได้ตลอดเวลา หากทางการไทยมีการบุกจับสถานที่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อขายวีซ่า
สำหรับลูกค้าท่านใดที่อยากได้ความช่วยเหลือในการตรวจและแนะนำด้านเอกสารที่ใช้สมัครวีซ่า DTV ทาง FITFAC มีเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการรีวิวเอกสาร DTV มากว่า 280 เคส และเข้าใจรูปแบบการทำงานของพนักงานสถานทูต และเอกสารที่ต้องเตรียมเป็นอย่างดี ทาง FITFAC คิดค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบเอกสารเพียง 4,990 บาท ซึ่งถ้าคำร้องขอวีซ่าของคุณถูกปฏิเสธ เราจะคืนค่าบริการทั้งหมดให้คุณภายใน 3 วันทำการ
ในกรณีที่คำร้องขอวีซ่า DTV ของคุณผ่าน เราจะมีการแถมกางเกงมวยไทย Tuffs ที่ปกติจะขายในต่างประเทศตัวละ 2500 บาทให้อีกด้วย
เนื่องจากคุณไม่สามารถขอวีซ่า DTV ในไทยได้ คุณจำเป็นจะต้องพำนักอยู่ในประเทศที่ยื่นขอวีซ่าตลอดเวลา จนกว่าสถานทูตจะอนุมัติคำร้องขอวีซ่าของคุณ โดยยื่นคำร้องขอวีซ่าผ่านทาง thaievisa.go.th เท่านั้น
ซึ่งบางประเทศมีสถานทูต/สถานกงสุลหลายแห่ง ผู้สมัครจะต้องเลือกสำนักงานที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบตามที่อยู่ ณ ปัจจุบันขณะยื่นขอวีซ่า
หากคุณเลือกยื่นขอวีซ่ากับสำนักงานที่ไม่ได้รับผิดชอบในพื้นที่ที่อยู่ ณ ปัจจุบันของคุณ คำร้องขอวีซ่าของคุณจะถูกปฏิเสธทันที
* รายชื่อสถานทูตไทยในประเทศเวียดนามที่ระบุเขตพื้นที่ในความรับผิดชอบของแต่ละสำนักงาน
หากคุณกรอกข้อมูลส่วนบุคคลผิดแม้แต่ตัวอักษรเดียว สถานทูตมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอวีซ่าของคุณโดยไม่คืนค่าธรรมเนียม
ความผิดพลาดที่พบเห็นได้บ่อยในการกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ลืมใส่เว้นวรรค ในกรณีที่ชื่อหรือนามสกุลของผู้สมัครมีเว้นวรรค, ใส่วันเกิดผิด, ระบุตัว O [“O”scar] เป็นเลข 0[zero] นั้นควรระมัดระวังให้ดี
นอกจากนี้คุณห้ามระบุอีเมลผิด หรืออีเมลที่กล่องจดหมายเต็มลงไป เพราะสถานทูตจะส่งวีซ่าที่ได้รับอนุมัติแล้วให้กับคุณทางอีเมล รวมถึงอาจจะรีเควสเอกสารเพิ่มเติมผ่านทางอีเมลที่คุณระบุเช่นกัน
สำหรับการยื่นเอกสารประกอบนั้น คุณควรยื่นเอกสารให้ตรงประเภทที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ ซึ่งควรยื่นเป็นไฟล์ PDF และมีขนาดไม่เกิน 3MB
หากเอกสารของคุณไม่ครบถ้วน สถานทูตมีสิทธิเรียกขอเอกสารเพิ่มเติมจากคุณ ทำให้ระยะเวลาในการพิจารณาวีซ่ายาวนานเพิ่มขึ้นอีก
ถ้าคุณไม่มั่นใจในการกรอกข้อมูล และการเตรียมเอกสาร เรามีบริการให้คำปรึกษาและช่วยตรวจคัดกรองเอกสารในการยื่นวีซ่า DTV ให้คุณในราคา 4990 บาท (สามารชำระเงินผ่าน Paypal ได้และรับประกันว่าถ้าวีซ่า คุณไม่ผ่าน เราจะคืนเงินให้คุณ 100% ทันที) ถ้าสนใจสอบถามกระบวนการต่างๆ ติดต่อเราได้ที่ visa@fitfacmuaythai.com หรือคลิกที่นี่
หลังจากที่คุณกรอกข้อมูลทุกอย่างรวมถึงอัพโหลดเอกสารประกอบเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการชำระเงินแก่สถานทูตซึ่งคุณสามารถชำระด้วยบัตรเครดิตผ่านเวบไซต์ thaievisa.go.th ได้เลย
*แบบฟอร์มการจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านบัตรเครดิต
แต่ปัจจุบันยังมีบางประเทศที่ไม่สามารถรับชำระผ่านบัตรเครดิตได้ ต้องให้ผู้สมัครไปชำระค่าธรรมเนียมที่สถานทูต อย่างเช่นสถานทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ซึ่งรับชำระเป็นเงินสกุลบาทเท่านั้นด้วย
หลังจากชำระเงินเสร็จแล้ว ขณะที่คำร้องขอวีซ่าของคุณกำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณา คุณจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในประเทศนั้นเท่านั้น ห้ามเดินทางออกไปประเทศอื่นเด็ดขาด เนื่องจากสถานทูตอาจจะขอหลักฐานประกอบเพิ่มเติมหรือเรียกคุณเข้าไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตด้วยตนเองก็เป็นได้
*อีเมลจากสถานทูตไทย ณ กรุงปารีสที่แจ้งขอหลักฐานยืนยันที่อยู่ปัจจุบันจากผู้สมัครอีกครั้ง
รวมถึงแจ้งด้วยว่าจะไม่ออกวีซ่าให้ หากผู้สมัครได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว
สถานทูตส่วนใหญ่จะใช้เวลาพิจารณาคำร้อง 7-14 วันทำการ ดังนั้นคุณควรเผื่อเวลาสำหรับยื่นคำร้องไว้ล่วงหน้าสัก 1 เดือนก่อนเดินทางเข้าไทย เช่น ถ้าวางแผนจะเข้าไทย วันที่ 15 ตุลาคม 2025 คุณควรจะยื่นเอกสารตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2025
หากคำร้องขอวีซ่าของคุณได้รับการอนุมัติ สถานทูตจะส่งวีซ่าเข้ามาที่อีเมลของคุณในรูปแบบ Evisa ซึ่งคุณต้องพิมพ์สำเนาของวีซ่านี้ออกมา 2-3 แผ่นเพื่อใช้แสดงต่อสายการบินและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทย
*ตัวอย่าง Evisa ที่ได้รับทางอีเมล
นอกจากนี้ ก่อนจะเดินทางเข้าไทย คุณจะต้องลงทะเบียน Thailand Digital Arrival Card อีกด้วย โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://tdac.immigration.go.th/arrival-card/#/home
เมื่อคุณเดินทางเข้าไทยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ทางเจ้าหน้าที่จะประทับตราบอกวันที่คุณสามารถอยู่ในไทยได้ ซึ่งตราประทับ 1 ดวง จะระบุให้คุณอยู่ในไทยได้มากสุด 180 วันเท่านั้น เช่นด้านล่าง วันที่นักท่องเที่ยวเข้ามาคือวันที่ 12 กันยายน 2024 และสามารถอยู่ในไทยได้ถึงวันที่ 10 มีนาคม 2025
หากคุณพำนักในไทยเกิน 90 วัน คุณต้องรายงานตัวทุก 90 วัน โดยครั้งแรกคุณต้องเดินทางไปรายงานตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหลังจากนั้นจึงรายงานตัวผ่านระบบออนไลน์ได้ (อ่านที่นี่)
เอกสารสำคัญที่ต้องใช้รายงานตัวในครั้งแรกคือ ตม.30 ที่เจ้าของที่อยู่อาศัยของคุณต้องเป็นผู้รายงานการเข้าอยู่ของชาวต่างชาติ หากคุณไปรายงานตัว 90 วัน โดยไม่มีเอกสารตม.30 คุณอาจจะเสียค่าปรับ 700 – 2,000 บาท
DTV Visa มีอายุ 5 ปี แต่คุณสามารถอยู่ในไทยได้ไม่เกิน 180 วัน
เมื่อคุณอาศัยอยู่ในไทยครบ 180 วันแล้ว คุณมีทางเลือกในการต่ออายุอยู่ 2 ทาง คือ
1. เดินทางออกนอกประเทศแล้วกลับเข้ามาใหม่ วิธีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะประทับตรา ให้อยู่ต่อได้อีก 180 วันทันที ซึ่งการเดินทางออกนอกประเทศแล้วกลับเข้ามาใหม่นี้ จะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ข้อเสียของการเดินทางออกนอกประเทศ คือ ในแต่ละครั้งที่คุณเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย คุณอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขอดูเอกสารต่างๆ เช่น
– หลักฐานทางการเงิน ที่คุณต้องมีเงินอย่างน้อย 5 แสนบาทในบัญชี สำหรับแต่ละครั้งที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทย ซึ่งหลักฐานทางการเงินนี้ควรจะเป็นหลักฐานทางการ ที่ตรวจสอบได้ง่ายโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของไทย เช่น เป็นหลักฐานทางการเงินจากบัญชีธนาคารในไทย (ทาง FITFAC มีบริการรับเปิดบัญชีธนาคารให้กับลูกค้าที่สมัครเรียนมวยไทยกับเรา คลิกที่นี่)
– แผนการเรียนมวยไทย (ในกรณียื่นขอวีซ่า DTV ในหมวดหมู่ Softpower) ต้องมีหลักฐานเช่นบัตรสมาชิกของยิม หรือรูปถ่ายในขณะที่เรียนมวยไทย (ทาง FITFAC มีแอพในมือถือสำหรับโชว์ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองดูว่า คุณได้มาเข้าเรียนที่ FITFAC อย่างจริงจัง)
– หลักฐานที่อยู่ในเมืองไทย ที่สอดคล้องกับแผนการเรียนมวยไทย (ยกตัวอย่างเช่น คุณพักอาศัยอยู่ใน กรุงเทพ ก็ควรจะมีการเรียนมวยไทยอยู่ในตัวเมืองกรุงเทพ เช่นกัน ถ้าคุณไปสมัครเรียนมวยไทยที่จังหวัดอื่นๆ ซึ่งไม่ได้อยู่ใกล้กับที่พักอาศัย ตามหลักฐานที่คุณมีอยู่ คุณอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปฏิเสธการเข้ามาในประเทศไทยได้
เอกสารหลักฐานเหล่านี้ควรจะพิมพ์ออกมาใส่กระดาษให้ชัดเจน และนำติดตัวไปต่างประเทศทุกครั้ง เผื่อในเวลาที่คุณเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วถูกสอบถามโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง คุณจะมีเอกสารพร้อมชี้แจงให้เจ้าหน้าที่เสมอ
2. ขยายอายุกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยทำเรื่องขยายอายุเพิ่มได้อีก 180 วัน และชำระเงินจำนวน 1,900 บาท (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่) ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ประกอบด้วย
– หลักฐานทางการเงิน
– หลักฐานในการทำงานในต่างประเทศ เช่น สัญญาจ้างงาน ที่มีอายุ จนถึงวันที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทย
– หลักฐานการเรียนมวยไทย เช่น หนังสือรับรองการเป็นสมาชิกของยิมมวยไทย
– หลักฐานที่พักอาศัยในเมืองไทยเช่น หลักฐานการเช่าที่พักอาศัยในไทย และ ตม.30
*เอกสารจากทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ระบุถึงเอกสารที่ใช้ในการต่ออายุวีซ่า DTV
สำหรับการต่ออายุวีซ่า DTV สำหรับผู้ที่ต้องการอยู่อาศัย เกิน 180 วัน นั้น ทาง FITFAC แนะนำให้มีการเตรียมหลักฐานทางการเงินและหลักฐานการเป็นสมาชิกการเรียนมวยไทยให้พร้อมที่สุด ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยแต่ละครั้ง
เพราะถึงแม้คุณจะถือวีซ่า 5 ปี แต่ท้ายที่สุดแล้วอำนาจในการตัดสินใจให้คุณเข้ามาในเมืองไทยจะอยู่ที่ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จะพยายามตรวจคัดกรองผู้ที่มีแนวโน้มจะเข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดูจาก
1. หลักฐานทางการเงิน ถ้าคุณมีเงินในบัญชีน้อยๆ คุณมีโอกาสที่จะถูกปฏิเสธให้เข้าเมืองไทยสูง
2. แผนการใช้ชีวิตในเมืองไทย ถ้าคุณไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีแผนการใช้ชีวิตที่ชัดเจน เช่น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ยิมมวยที่คุณเรียนอยู่ใกล้กับที่พักคุณรึเปล่า คุณก็มีสิทธิ์ โดนปฏิเสธการเข้าเมืองเช่นกัน
ทาง FITFAC มีบริการให้คำแนะนำรวมถึงช่วยเปิดบัญชีธนาคารให้กับลูกค้าที่ขอ DTV วีซ่า ผ่านการเรียนมวยไทยที่ FITFAC ซึ่งถ้าทางคุณสนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ visa@fitfacmuaythai.com
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อสำนักงานของเราได้ที่
DTV Visa Thailand โรงแรม Ascott สาทร ชั้น B1 ติด BTS เซนต์หลุยส์ ทางออกประตู 4
เวลาทำการ
วันจันทร์ – พฤหัส 13.00 – 21.00
วันอาทิตย์ 10.00 – 17.30
แนะนำให้นัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ามาที่ visa@fitfacmuaythai.com